สวัสดีครับ… อาจารย์ศุภเดชครับ
ก่อนอื่น หลายๆอาจจะได้ยินมาว่า ถ้า Mikrotik ช้า ให้ทำ Fastpath หรือ Fasttrack สิ มันจะเร็วขึ้น ถ้าเรามองในแง่ความเป็นจริงเนี่ย Hardware ใดๆ ย่อมไม่สามารถแรงได้เกินสิ่งที่มันทำได้อยู่แล้วตามกฏฟิสิกส์
แปลว่า การที่มันทำงานได้เร็วขึ้นหรือมากขึ้น ก็คือ การลดความสูญเปล่าของการทำงานนั่นเองครับ ก่อนอื่น มาดู Fastpath กันก่อน Fastpath แปลว่าทางเร็ว แปลว่ามันต้องมี Slowpath ที่เป็นทางช้าด้วยใช่ไหม?
คำตอบคือใช่ครับ
จากในรูปนี่คือ Packet Flow ของ RouterOS เวอร์ชั่น 6 ที่เป็นตัวล่าสุด ซึ่งเราจะเรียกเส้นทางเหล่านี้ว่า Slowpath ก็ได้ครับ จะเห็นได้ว่า นี่คือ Flow ของ Packet เมื่อมาถึง RouterOS แล้วตัว RouterOS จะจัดการยังไงบ้าง
มันมีกฏ ในการจัดการเยอะแยะไปหมด
เช่น Packet ที่เข้ามาเป็น Bridge เป็น Route หรือเป็น MPLS มี Firewall ไหม มี Hotspot ไหม ก็จะแยกออกไปตามเส้นทางของมัน
จะเห็นได้ว่าก่อนที่จะส่ง Data ออกมาใช้งานมันต้องประมวลผลเยอะไปหมด และนี่คือ Slowpath ครับ
อารมณ์ของ Slowpath ก็เหมือน ด่านตรวจคนเข้าเมืองแบบเข้มข้น ที่เช็คทุกจุดกว่าจะถึงทางออกนั่นเอง
แล้ว Fastpath คืออะไร?
Fastpath คือ Feature ที่เอาไว้เพื่อทำให้ throughput สูงสุดเพิ่มขึ้น โดยที่ Packet จะไม่วิ่งเข้าไปด่านตรวจคนเข้าเมืองพวกนี้เลยครับ
แหมฟังดูเหมือนสวรรค์ แต่จริงๆแล้ว
ถ้าคุณอยากใช้ Fastpath
- Hardware คุณต้องรองรับ Fastpath
- Enable Fastpath ใน IP Setting
- ห้ามมี Firewall , ห้ามมี Hotspot , ห้ามมี Mangle , ห้ามมี MPLS , ห้ามทำ Mesh , ห้ามทำ Address List , ห้ามทำ VRF , ห้ามทำ IPSec , ห้ามทำ Queue
แล้วจะใช้ Mikrotik ไปทำไมเนี่ย????? ถ้าต้องปลด Feature ออกเยอะขนาดนี้
โอเคแหละ Fastpath เพิ่มความสามารถของ throughput ให้กับ Mikrotik ได้มากขึ้น แต่ก็แลกกับการแปลงร่าง Mikrotik กลับไปเป็น Router โง่ๆตัวนึง
ต่อมาก็เลยมีการพัฒนา Fasttrack ขึ้น ซึ่ง Fasttrack มาจาก Fastpath + Connection Tracking ครับ
โดยที่หลักๆแล้ว Fasttrack ทำงานเหมือน Fasthpath
แต่เราเลือกได้ว่า จะเอา connection ไหนใส่เข้าไปใน Fasttrack บ้าง เช่นคุณอาจจะเลือกว่า Connection ที่ Established + Related เป็น Fasttrack เพิ่อเพิ่มความเร็วมากขึ้น
หรือ Client ที่ทำ Authen เสร็จแล้ว ก็ส่งไป Fasttrack จะได้เร็วขึ้น
หรือ Connection ระหว่าง VLAN เป็น Fasttrack อะไรแบบนี้
คนที่เข้าไปใน Fasttrack จะไม่ถูก Firewall , Queue เช็ค ทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้น
สรุปแล้ว Fasttrack เป็น Fastpath แบบย่อส่วน ที่ทำให้เกิด throughput ที่สูงขึ้น “ใน Connection ที่เรากำหนดไว้เท่านั้น”
แต่ก็จะมีหลายคน ที่กำหนด Fasttrack แบบไม่ถูก คือ กำหนด แบบครอบจักรวาล ผลก็คือ มันก็กลายเป็น Fastpath เหมือนเดิม เปลี่ยนร่างจาก Mikrotik แสนฉลาดกลายเป็น Router ติงต๊องครับ
อย่างที่บอกไปว่าถ้าอะไรเข้าไปใน Fasttrack มันจะไม่ถูกอ่านโดย Firewall , Queue เลย ดังนั้น ที่คุณเขียน Rules ควบคุมไว้มันก็จะเปล่าประโยชน์ทั้งหมด การใช้ Fasttrack จึงต้องระมัดระวังมากๆครับ