สวัสดีครับ อ.ศุภเดช ครับผม สำหรับคนที่ทำงานด้าน Website และ Domain Name รวมไปถึง Network Engieer ที่ใช้งานพวก Dynamic DNS เยอะๆ น่าจะเคยเจอปัญหาต่อไปนี้
นั่นก็คือ เวลาย้าย Server หรือ ย้าย Domain Name เนี่ย แล้วมันเจอปัญหา DNS ทั่วโลกยังไม่ได้ Update แล้วลูกค้าจากบางประเทศเข้าไม่ได้ โดยเฉพาะพวก Network Engineer อย่างผมที่ใช้งานระบบ Dynamic DNS ก็พอกันครับ เวลาที่ WAN Link เปลี่ยน IP แต่สถานะของ Dynamic DNS บน ISP โน้น นี้ยังไม่เปลี่ยน นี่ก็เจอปัญหาว่าทำให้ User จาก ISP ดังกล่าว วิ่งกลับมายัง Site ของเราไม่ได้
ปัญหาคือ เราจะรู้ได้ยังไงว่า Domain ของเรามัน Update DNS Name ครบทั้งโลกแล้วหรือยัง จะให้ไป Query ถาม DNS Server ทั้งโลก มันก็เหนื่อยอยู่นะ กว่าจะถามครบ
หลายวันก่อนที่ Live กับทางพี่อู๊ด MikrotikTutorial แกก็พูดถึงเครื่องมือนี้ขึ้นมาพอดี ผมเห็นว่าเจ๋งดี เลยเอามาเก็บเป็น Blog ไว้กันลืมครับ
dnschecker.org เป็นผู้ให้บริการตรวจสอบสถานะการ Update ของ DNS Name โดยที่ ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอันนึงก็คือ การไป Query ถาม DNS ในประเทศต่างๆบนโลกมาให้เรานี่แหละครับ อเมริกา , ยุโรป , แอฟริกา , สิงค์โปร์ , ไอร์แลนด์ , อินเดีย และที่อื่นๆอีกมากมายครับ
กดถามทีเดียว พี่ท่านจะไป Query มาให้รอบโลกเลย ซึ่งทำให้เราตรวจสอบได้ว่า Domain Name ของเรา มัน Update ครบทั้งโลกหรือยังครับ
วิธีใช้ก็ง่ายมากครับเข้าไปที่ https://dnschecker.org แล้วก็กรอก Domain Name ของคุณเข้าไป แล้วกด Search ก็จะได้ข้อมูลมาแล้วครับ ถ้ามี check ถูกต้องและแต่ละที่ IP Address ตรงกัน แปลว่าชื่อของเรา Update DNS ครบทั้งโลกแล้วนั่นเองครับ
นอกจากไป Query ถาม DNS พื้นฐานในแต่ละประเทศ เรายังสามารถเพิ่ม DNS Server ของเราได้เอง เพื่อใช้ตรวจสอบเพิ่มเติมได้ด้วยครับ
และเพื่อให้สะดวกมากขึ้น ทาง dnschecker.org ก็ทำ Chrome Extension มาให้ด้วยครับ สามารถกดติดตั้งได้จาก URL นี้เลยครับ
ปิดท้ายสำหรับคนที่ใช้ Command Line บน Linux หรือ MacOS มีคนทำ Opensource Project ไว้ชื่อว่า distributed-dig ครับ ซึ่ง dig ก็เป็น Command Line สำหรับไปถาม Domain Name จาก DNS Server เหมือนกันครับ แต่ถามทีละ Server นะ
ก็เลยมีคนทำเครื่องมือที่ชื่อว่า distributed-dig นี่แหละ กด Query ถามทีเดียวไปถาม DNS Server ให้ทั้งโลกเหมือนกัน
สำหรับคนที่ใช้ Linux หรือ MacOS สามารถติดตั้งผ่าน npm ด้วยคำสั่ง
npm install -g distributed-dig
จากนั้นเวลาใช้งานก็รันคำสั่ง ddig ตามด้วย Domain Name ได้เลยครับ
คนที่ชอบ Command Line น่าจะชอบตัวนี้มากกว่า ชอบแบบไหน ก็เลือกใช้ได้ตามสะดวกเลยครับ